ในช่วงที่ผ่านมา หลายๆท่านอาจจะได้ลาภก้อนโต จาก Bitcoin ที่ทะลุ 3 ล้านบาท/เหรียญ ไปเรียบร้อยแล้ว
วันนี้ เราอยากจะพาท่านมารู้จักกับสินทรัพย์เพื่อการลงทุน ประเภทต่างๆ
แบ่งคร่าวๆ ก็จะมี
1.Physical Asset (สินทรัพย์ที่จับต้องได้) ทั้ง อสังหาริมทรัพย์ (บ้าน คอนโด ที่ดิน) และ สังหาริมทรัพย์ (รถยนต์ ทองคำ เพชรพลอย ภาพศิลปะ สินค้าโภคภัณฑ์ ของสะสมต่างๆ เช่น นาฬิกาหรูหรือกระเป๋าแบรนด์เนม)
2.Financial Asset (สินทรัพย์ทางการเงิน) ทั้งตราสารในตลาดเงินและตลาดทุน (หุ้นสามัญ หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน ตราสารอนุพันธ์ กองทุนประเภทต่างๆ รวมถึง ประกันชีวิต และ ประกันวินาศภัย แม้กระทั้ง การเก็งกำไรค่าเงินของสกุลเงินต่างๆหรืออัตราแลกเปลี่ยน)
และ ในยุคหลังปี 2000 (ยุค Digital เฟื่องฟู) ก็มีสินทรัพย์ประเภทใหม่ๆที่คนนิยมลงทุนมากขึ้นคือ
3.Non-Tangible Asset (สินทรัพย์ที่จับต้องได้) เช่น สินทรัพย์ดิจิทัล (สกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนมีลักษณะเฉพาะตัวซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือแทนที่กันได้)โดยสามารถซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนกันภายใต้กระบวนการดิจิทัล
ทั้งนี้ ทุกท่านสามารถเลือกลงทุนสินทรัพย์แต่ละประเภทได้ตามความเหมาะสมตาม สภาพเศรษฐกิจ ความต้องการซื้อ-ขายในแต่ละช่วงเวลา ความสามารถในการสร้างผลกำไรหรือผลตอบแทน ที่สำคัญคืออะไรคือตัวกำหนดมูลค่าของสินทรัพย์แต่ละประเภท ?
.
เราอยากให้ทุกท่านได้ศึกษากันเพิ่มเติม เพราะ asset class แต่ละอัน หุ้น ทอง คริปโต ฯลฯ ต่างก็มีลักษณะของตัวเอง
ไม่มีอะไรเป็นการลงทุนที่ผิด ไม่มีอะไรที่สร้างผลตอบแทนได้เหนือสิ่งอื่นตลอดทุกช่วงเวลา
ใครถนัดอะไรก็สามารถลงทุนตามทางของตัวเองถนัดจะดีที่สุด !
.
ท้ายที่สุดนี้ แค่อยากจะกระซิบบอก ว่า core value ของอสังหาฯ คือ
สิ่งที่ถูกออกแบบไว้เพื่ออยู่อาศัย บ้านที่น่าอยู่/คอนโดที่ฟังก์ชั่นดี จะมีค่าได้ด้วยตัวของมันเอง
ไม่ช้าช้าก็เร็ว ราคามันก็จะสะท้อนมูลค่าออกมา
แถมๆ อสังหาฯ เป็น ทรัพย์สินจับต้องได้ไม่กี่ชนิดที่สามารถซื้อโดยการกู้หรือใช้ค้ำประกันได้ (เป็นเครื่องมือทางการเงิน คล้ายสินทรัพย์ทางการเงิน) แถมยังมีความเฉพาะตัว ไม่เหมือนกันทั้งๆที่แบบบ้านเดียวกันอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน หรือห้องเหมือนกันในตึกเดียวกัน แต่ตำแหน่งวิวไม่มีทางเหมือน จึงมีความเฉพาะตัว ซ้ำไม่ได้ (มีความเป็น non-tangible คล้ายสินทรัพย์ดิจิทัล)